พ่อเป็นผู้บริหาร ไม่ใช่จับกัง!!!

วันก่อนผมได้ไปพักผ่อนที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งกับแฟน (ได้ voucher ราคาพิเศษนะครับ) และเนื่องจากพวกผมเหนื่อยจากการทำกิจกรรมต่างๆในระหว่างวันและตอนนั้นเป็นเวลา 2 ทุ่มแล้ว ผมจึงตัดสินใจกินข้าวภายในโรงแรม (ซึ่งค่อนข้างแพงพอตัว) ในระหว่างที่กินข้าวโต๊ะที่อยู่ข้างหลังผมนั้นเป็นครอบครัวหนึ่งซึ่งประกอบด้วยสามี ภรรยา และลูกชายอีก 3 คน ซึ่งผมได้สังเกตว่าทางพ่อเค้าคุยโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลาและลูกๆอีกสามคนนั้นก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์อย่างเดียวในระหว่างรออาหาร พอสักพักพ่อเค้าวางสายจากโทรศัพท์ผมก็ได้ยินบทสนทนาว่า

ลูกคนเล็ก: ตั้งแต่สั่งอาหาร ไม่เห็นพ่อคุยกับผมสักคำเลย

พ่อ: ก็พ่อเป็นผู้บริหาร ไม่ใช่จับกัง

พอพูดเสร็จแล้วลูกก็อึ้งไปเลย ตัวพ่อเค้าน่าจะสังเกตเห็นก็เลยพูดแบบเล่นๆว่า

พ่อ: พ่อพูดแรงไปหน่อยป่าววะ แล้วก็หัวเราะ

หลังจากนั้นอีกประมาณ 1 นาที ก็มีสายเข้าโทรศัพท์ของคนพ่อ แล้วเค้าก็คุยโทรศัพท์อีก

หลังจากนั้นผมกับแฟนก็ได้จ่ายตังแล้วก็ออกมาเดินคุยกัน ซึ่งพวกผมก็สงสัยว่าเป็นผู้บริหารนี่จำเป็นต้องพร้อมรับสายตลอดเวลาเลยเหรอครับทั้งๆที่อยู่นอกเวลางานและออกมาพักผ่อนที่ต่างจังหวัดด้วย และเนื่องจากผมไม่ได้เป็นผู้บริหาร ผมก็เลยสงสัยอีกครับว่างานของผู้บริหารนี่จำเป็นต้องว่าที่จะคุยโทรศัพท์ตลอดเวลาโดยที่ไม่ต้องสนใจความรู้สึกของลูกๆตัวเองเลยเหรอครับ เพราะงานที่ผมทำอยู่ปัจจุปันนี่ก็ค่อนข้างจะไม่มีเวลาอยู่แล้วเนื่องจากเข้างานเช้าและเลิก 4 ทุ่มเกือบทุกวัน (เดือนนึงหยุดได้ 4 วัน) แต่ถ้าเป็นช่วงพักผ่อนกับครอบครัวหรือแฟนนี่ผมแทบจะไม่คุยโทรศัพท์เลยนะครับถ้าไม่จำเป็นจริงๆก็ไม่เห็นจะมีใครต่อว่าผมเลยนะครับ (แต่ส่วนใหญ่ผมฝากเรื่องไว้ให้คนที่อยู่แผนกเดียวกับคอยต่องานในช่วงที่ผมไม่อยู่อยู่แล้วนะครับ)

อีกเรื่องที่ผมสงสัยคือว่าสำหรับคนทำงานหลายๆท่านในที่นี้คิดว่าคุ้มหรือไม่ครับที่จะเอาเวลาส่วนตัวที่ควรจะใช้พักผ่อนไปแลกกับเงินหากคุณอยู่ในฐานะพ่อของเด็กครับ ซึ่งฐานะเค้าก็น่าจะค่อนข้างมีอันจะกินเลยทีเดียวจากที่ผมดูอาหารที่เค้าสั่งและการที่เค้าไม่รับไวน์ส่วนที่เค้ากินไม่หมดไว้นะครับ

edit: หลังจากอ่านความคิดเห็นของบางท่านแล้วผมยอมรับครับว่าผมเอาความรู้สึกส่วนตัวเข้สไปเกี่ยวข้องด้วยครับเพราะวัฒนธรรมองค์กรของผมนั้นคือเรื่องงานให้ทิ้งไว้ที่ทำงาน และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือผมเคยอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆลูกเค้ามาก่อนต่างกันตรงที่ผมเป็นลูกคนเดียวและผมไม่เคยมีบทสนทนาแนวนี้กับพ่อ ได้แต่เก็บเอาไว้น้อยใจคนเดียว (ตอนเด็กๆ นะครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่